การใช้ Indicator ต่าง ๆ Fractal Indicator

การใช้ Indicator ต่าง ๆ Fractal Indicator

 

บทความนี้นำเสนอการใช้ Indicator พื้นฐานที่มีอยู่ใน MT4 ในหมวดของเครื่องมือของ Bill Williams ซึ่ง Indicator ที่เรานำเสนอ คือ Fractal Indicator การนำเสนอการใช้ Indicator Fractal นั้นทำให้เทรดเดอร์สามารถนำ Indicator มาใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดให้มีความสามารถมากขึ้น การเทรด สามารถใช้ Indicator ได้หลายชนิดทำให้ เทรดเดอร์มีความได้เปรียบเนื่องจาก Indicator ที่แตกต่างกันย่อมมีคุณสมบัติและการใช้งานแตกต่างกัน การใช้งานที่แตกต่างกันนี้จะทำให้เทรดเดอร์มีเครื่องมือใช้ในการเทรดในรูปแบบสภาวะการณ์ของตลาดที่แตกต่างกัน

ถ้าหากเรากล่าวถึง Indicator Fractal เราอาจจะนึกถึงทฤษฎี Fractal อย่างหนึ่งของทฤษฎีคณิตศาสตร์ นั่นคือ สัดส่วนต่าง ๆ ในธรรมชาติ เช่น รูปร่างของก้นหอยในธรรมชาติ รูปร่างของเกล็ดหิมะ หรือรูปร่างของดอกไม้ หรือ รูร่างของต้นไม้ใบไม้ที่มีรูปร่างและลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เป็นพิเศษ แต่จริง ๆ แล้ว Fractal ในตลาด Forex นั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจริง ๆ แล้วในความเป็นจริง รูปร่างของ Fractal นั้นไม่ได้สะท้อนทฤษฎีใด ๆ อย่างที่กล่าวมา เพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้น ลองไปดูรายละเอียดในเนื้อหาการใช้งาน Indicator ที่ชื่อว่า Fractal ดังต่อไปนี้

Fractal Indicator

แม้ว่าราคาอาจจะปรากฏรูปร่างและการเคลื่อนไหวแบบสุ่ม แต่จริง ๆ แล้วมันสร้างรูปแบกาเคลื่อนไหวที่มีรูปแบบและมีเทนรนด์ สิ่งที่เป็นพื้นฐานของการรูปแบบซ้ำ ๆ นั่นก็คือ Fractal ซึ่งเป็นแนวคิดที่อธิบายก่อนในพารากราฟก่อนหน้านี้ Fractal นั้นเป็นรูปแบบการกลับตัว ในบทความนี้จะอธิบายรูปแบบ Fractal และคุณจะใช้มันในกลยทธ์การเทรดอย่างไร?  Fractal ในที่นี้จะหมายถึงรูปแบบของราคาที่เกิดขึ้นจากทฤษฎีโกลาหล ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่ง Fractal จะประกอบด้วยแท่ง 5 แท่ง กฏของการอธิบายแท่งเหล่านั้นคือ

จุดกลับตัวตลาดหมี จะเกิดขึ้นเมื่อมีรูปแบบการเกิดจุดสูงสุดในช่วงตรงกลางและเกิด Lower high ในแต่ละด้านของราคา ขณะที่จุดกลับตัวตลาดกระทิงจะเกิดขึ้นเมื่อมีรูปแบบเกิด Lowest Low แล้วเกิด higher Low ในแต่ละด้านดังรูปต่อไปนี้

รูปที่ 1 รูปแบบการกลับตัวของ Fractal

ที่มา Investopedia.com

จากรูปข้างบ นั่นคือ การกลับตัวตลาดหมี คือแท่งตรงกลางจะมีแท่งที่สูงที่สุดขนาบด้วยแท่งที่แสดงการลดหลั่นกัน และรูปแบบนี้ก็เป็นรูปแบบการกลับหัวในเทรนด์ขาขึ้น ซึ่งรูปแบบการกลับตัวที่ผ่านมาท่านก็จะเห็นว่ามันจะไม่สามารถตอบได้เลยถ้ามันไม่เกิดการกลับตัวจนเสร็จสิ้นแล้วเสียก่อน  เราลองมาดูทฤษฎีกับความแตกต่างในตลาดจริง ๆ กันก่อน

รูปที่ 1 แสดง Fractal Indicator ใน MT4

จากรูปข้างต้นจะเห็ฯว่า มีลูกศรชี้ขึ้นและลงเต็มไปหมดนั่นคือ Fractal หมายความว่าการเกิด Fractal ถี่ขนาดนั้น จะทำให้เห็นช่วงการกลับตัวทุกครั้ง ซึ่งการกลับตัวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมันมีสัญญาณกลับตัวเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น ต้องดูแท่งสูงสุดหรือต่ำสุดเป็นแกนที่ตั้ง และดูแท่ง 2 แท่งประกอบ เมื่อเกิด Fractal ให้เห็นแล้วเราจึงคิดว่าเป็นการกลับตัวของ Fractal ทฤษฎีนี้จึงคิดว่า รูปแบบการกลับตัวนี้เป็นสิ่งที่แน่นอน ซึ่งเมื่อเกิดสัญญาณ Fractal แล้วจึงเกิดแน่นอน แล้วเราจะใช้ในการเทรดอย่างไร?

 

การใช้ Fractal ในการเทรด

การใช้ Fractal ในการเทรด เพื่อหาจุดกลับตัว ตัวอย่างเช่น เมื่อเกิด Fractal แล้วให้เทรดตามเทรนด์ นั่นคือ ถ้าเกิด Fractal กลับตัวตลาดกระทิง สิ่งที่เราต้องทำคือ เทรด Sell เพราะมันจะเคลื่อนไหวตรงข้ามกับ Fractal ยอมเข้าช้าหรือเสียเวลาไป 1 – 2 แท่งเพื่อยอมให้เทรนด์นั้นชัดเจนยิ่งขึ้น การเทรดในลักษณะนี้จะต้องยอมเสียเวลาและกินกำไรคำน้อย เพราะเราไม่รู้เลยว่ากราฟจะกลับตัวเมื่อไหร่

เมื่อส่งคำสั่งแล้วมันอาจจะต้องกลับตัวได้ทุกเมื่อ สิ่งที่เราต้องทำคือ เมื่อกำไรก็ต้องพอใจกับกำไรที่ตัวเองได้รับ ไม่อย่างนั้นเมื่อปล่อยให้ความโลภครอบงำ สิ่งที่เราต้องเผชิญ ก็คือ ความหายนะของพอร์ทลงทุน นั่นเอง

แต่จุดอ่อนของการใช้ Fractal ในการเทรด มีข้อใหญ่ ๆ ก็คือ มันเป็นการเข้าเทรดที่ช้าและต้องรอสัญญาณ ซึ่งไม่รู้เลยว่าเมื่อไหรั่นจะกลับตัวกลับมาทำให้เราต้องเผชิญกับภาวะขาดทุน เพื่อให้แน่ใจเราต้องกินคำเล็กเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดพลาด อย่างไรก็ตามก็ยังมีวิธีแก้ไขที่จะทำให้การใช้เครื่องมือ Fractal สามารถเทรดได้ระยะทางเพิ่มขึ้น วิธีการคือ

การใช้ Fractal ระบุจุดกลับตัวใน Tie Frame ที่ใหญ่กว่า เช่น ใช้ Fractal ในการวัดการกลับตัวในเฉพาะ Time Frame ระดับสัปดาห์ขึ้นไปเท่านั้น เพราะว่าถ้ากำหนดใน Tie Frame ที่เล็กแล้วย่อมทำให้เวลานั้นสั้นลงนการถืออเดอร์ ถ้าหากเราเทรด Time Frame ใหญ่ เอาไว้ดูการกลับตัวแล้วกลับมาส่งคำสั่งใน Time Frame เล็กทำให้ความเสี่ยงของมัน ลดน้อยลง นี่จึงเป็นการใช้งาน Fractal ที่สมเหตุสมผล

 

ทีมงาน  www. .com